เทรดหุ้นกันมัน(ยังมันอยู่หรือเปล่า?)

Posted by: Khun T on: มิถุนายน 5, 2008

• In: ลงทุน | หุ้น
• 6 Comments

ความเดิมต่อจากตอนที่แล้วเรื่องเทรดหุ้นกันมัน ปรากฏว่ามีเวลามันแค่สัปดาห์เดียว แล้วก็กลับมาแย่กว่าเดิมอีก ว่าไปแล้วปีนี้ยังเคยหวังว่าตลาดหุ้นบ้านเราจะขึ้นไปเป็นเลขสี่หลัก แต่ความหวังก็ริบหรี่ลง ตอนนี้บางคนก็บอกว่าตลาดยังมีโอกาสทำยอดสูงใหม่สูงกว่าช่วงที่ผ่านมาแต่ไม่ถึงหลักสี่ แต่บางคนก็บอกว่าตลาดไทยจะแย่มากๆ บางคนในที่นี่เป็นบางคนแบบฝรั่ง someone ที่ผมให้น้ำหนักในคำวิจารณ์เกี่ยวกับตลาดหุ้นพอควร

มองในแง่ดีก่อน สภาพธุรกิจบ้านเราก็อาจจะประคับประคองไปได้ ไม่เกิดเรื่องเลวร้ายขึ้น ก็จะทำให้เศรษฐกิจประเทศยังเป็นตัวเลขที่ดีพอห้าถึงหกเปอร์เซ็นต์ในส่วนของจีดีพี ซึ่งการที่จีดีพีโตขึ้นไม่ได้แปลว่าเศรษฐกิจในกระเป๋าพวกเราที่เป็นประชาชนจะดีขึ้นนะ คนละเรื่องเดียวกัน ชนิดไปถามคนทำมาหากินว่าเศรษฐกิจเป็นไง แล้วมาผูกเป็นภาพว่าเศรษฐกิจไทยเป็นงั้น มันไม่ได้เหมือนกันเลย เพราะต่างก็ตอบกันบนมาตรวัดที่ต่างกัน

จีดีพีว่าไปก็เป็นแค่มาตรวัดเดียวในหลายๆมาตรวัด และลักษณะของมันถ้าเปรียบกับบริษัทก็เหมือนเป็นยอดขาย ยอดขายที่โตขึ้นไม่ได้บอกว่ากำไรต้องโตตาม แต่จีดีพีที่เหมือนยอดขายนั้นก็เป็นตัวสะท้อนความเป็นไปของสภาพเศรษฐกิจได้ ถ้าไม่มีการค้าขายการลงทุนจีดีพีก็จะไม่ดี ถ้ามีการซื้อขายเปลี่ยนมือมากจีดีพีก็จะดี

ถ้าหากสภาพเศรษฐกิจที่ยังเติบโตไปได้ดีพอ ธุรกิจที่อยู่ในตลาดหุ้นไทย ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นกลุ่มที่เป็นยอดของธุรกิจนั้นๆก็ยังน่าจะพอทำกำไรเพิ่มขึ้นได้ ถ้าหากเราดูผลกำไรของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นในไตรมาสหนึ่งที่ผ่านมา จะเห็นว่ามีการเติบโตสูงขึ้น 33% ซึ่งก็เพียงพอที่จะเป็นตัวผลักดันให้ดัชนีตลาดสูงขึ้นไปได้

ในส่วนด้านร้าย ถ้าหากไม่นับปัญหาที่ไม่คาดหมายทางการเมืองแล้ว ที่ผมพยายามนึกว่าเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจอะไรที่จะกดดัน ที่พอมองๆอยู่ก็เป็น ราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นกว่านี้อีกจนทำให้ เงินเฟ้อทะยานไป และส่งผลให้คนไม่ใช้เงินเลยเพื่อให้พอแค่อยู่รอด การลงทุนต่างๆก็หยุด เมกะโปรเจคต่างๆรถไฟฟ้าที่จะเพิ่มขยายก็หยุด นี่คงเป็นหนึ่งสถานการณ์ที่อาจเป็นไปได้

อีกมุมหนึ่งก็คือปัญหาทางเศรษฐกิจอาจไม่ร้ายแรง พวกเราก็ยังอยู่ยังกินยังใช้ได้ แต่ด้วยปัจจัยลบทางด้านราคาน้ำมัน ซึ่งไม่ต้องสูงกว่านี้ แค่นี้ก็แย่พอแล้ว ทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้น และอาจเป็นเหตุที่ทำให้ประเทศเราขาดดุลการค้ามากขึ้นๆและต่อเนื่องกดดันให้อัตราค่าเงินไทยบาทเราอ่อนค่าลง ซึ่งอาจเป็นเหตุที่ทำให้เงินลงทุนจากต่างประเทศมีแต่การถอนออกไปเรื่อยๆและไม่มีเงินทุนใหม่เข้ามา ซึ่งก็จะทำให้เกิดสภาวะที่หุ้นไทยราคาไม่ขึ้นก็เป็นไปได้

ณ เวลานี้ คงไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นจริงๆ ถึงแม้ในใจก็ยังมองในแง่ดีอยู่ แต่ลักษณะปัญหาช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เลยทำให้ภาพที่จะเห็นดัชนีตลาดหุ้นขึ้นไปเป็นพันคงต้องลดทอนลง อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เลยต้องมานั่งเกาะหลักการใหญ่ต่อไปว่า การลงทุนในระยะยาวเป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่ดีและความเสี่ยงที่ต่ำ เพราะตลาดซึ่งหมายถึงบริษัทต่างๆคงจะปรับตัวให้เข้ากับสภาพธุรกิจในแต่ละช่วงเวลาได้ ว่าแล้วก็ต้องเตรียมเงินไปซื้อ RMF และ LTF ในช่วงนี้ซะหน่อย

แต่สำหรับคนที่เป็นเทรดเดอร์แล้วคงไม่กลัวว่าตลาดจะขึ้นหรือลง คงกลัวสภาพตลาดที่ซึมๆไม่มีปริมาณซื้อขายมากกว่า หุ้นขึ้นก็มีโอกาส หุ้นลงก็มีโอกาส ตราบใดที่ปริมาณและความเหวี่ยงมีพอเทรดเดอร์ก็ยังคงเทรดกันต่อไป แต่ช่วงหุ้นขึ้นมันเทรดมันและง่ายกว่าเยอะเลย