Thai Baht… ways to Happy and earn money

สนามม้า

Posted on: กรกฎาคม 5, 2009

วันนี้มีโอกาสได้กลับไปสนามม้าอีกครั้ง ครั้งนี้ไปเยี่ยมเยียนสนามม้าไทยที่นางเลิ้ง เห็นแล้วก็รู้สึกเศร้า สนามลดความคึกคักลงมาก ตัวตึกที่นั่งดูเก่าเหมือนขาดการดูแลและปรับปรุง ปริมาณคนที่เข้าไปก็ลดน้อยถอยลงอย่างมาก จากการสอบถามธุรกิจของสนามนี่ลุ่มๆตอนๆและขาดทุนบ่อยครั้ง อุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับม้าแข่ง อาจรวมไปถึงม้าที่นำไปใช้ทางอื่นก็ไม่ค่อยดีมาก

สมัยเด็กๆเดินเข้าออกสนามม้าอยู่ประจำ สมัยนั้นดูแล้วยังรู้สึกถึงความตระการตาสมกับเป็นกีฬาพระราชา ตอนนั้นการแข่งขันม้าในกรุงเทพมีสัปดาห์ละสองวันผลัดวันกันระหว่างสนามไทยและสนามฝรั่งที่อยู่อังรีย์ดูนัง จนมาช่วงหนึ่งก็มีการลดลงเหลือเพียงสัปดาห์ละวัน ซึ่งก็เป็นจุดเริ่มแห่งการเสื่อมถอยของอุตสาหกรรมม้าแข่งในเมืองไทย

หลายวันก่อนเห็นในข่าวที่สิงคโปร์จัดแข่งม้า รางวัลที่หนึ่งมูลค่าสูงถึง 3 ล้านเหรียญสิงคโปร์ มีม้าจากหลายประเทศไปแข่งขันกัน ที่ฮ่องกงสนามม้าเป็นผู้บริจาคการกุศลที่ใหญ่ที่สุด เมืองไทยเราถ้วยประจำปีที่ใหญ่ที่สุดคือ ถ้วยดาร์บี้ รางวัลเพียงล้านบาท ซึ่งเป็นราคาที่พอซื้อม้าที่โตพร้อมจะแข่งเท่านั้นเอง ลูกม้าแข่งตัวหนึ่งก็ราคาระดับแสนแล้ว และยังต้องใช้เวลาเลี้ยงและฝึกซ้อมเป็นปีก่อนที่จะลงแข่งได้

วันนี้ก็เลยมีโอกาสเปรียบเทียบกันระหว่างการแทงม้ากับการแทงหุ้น เออ…ลงทุนในหุ้น จริงๆก็มีขั้นตอนคล้ายกันมาก ทั้งการเลือกม้าซึ่งจะดูตั้งแต่ฟอร์มการวิ่งในอดีต สายพันธฺุ์ จ็อกกี้ แล้วก็การบริหารเงินว่าจะเป็นการเล่นปริมาณเท่าไหร่ Position size และ exposer ในรูปแบบการแทงวินซึ่งต้องเข้าที่หนึ่งเท่านั้นถึงชนะหรือการแทงเพลส ม้าเข้าที่หนึ่งถึงสามก็ถือว่าชนะ หรือวิธีการแทงแบบควบสองควบสาม ซึ่งแต่ละแบบก็มีอัตราการจ่ายไม่เท่ากันในแต่ละเที่ยว ซึ่งทำให้การแทงในแต่ละรูปแบบจะมี exposer ไม่เท่ากัน

พอถึงตอนแข่ง ถึงแม้คนจะน้อยลง แต่เสียงเชียร์ม้าก็ยังเร้าใจเหมือนเดิม ดึงความทรงจำเก่าๆกลับมาได้

2 Responses to "สนามม้า"

สมัยนั้น … ท่าทางไกลพอตัวอยู่ใช่ไหมคะ เพราะจอมไม่ทันสมัยนั้นเลย…

สนามม้า ไม่เคยเหยียบเลยค่ะ เคยแต่นั่งรถผ่าน แล้วก็รู้ว่าคือสนามม้า แต่…ไม่เคยรู้เลยว่ามีม้าแข่ง

ใส่ความเห็น