พิพิธภัณฑ์สยาม
Posted พฤษภาคม 25, 2008
on:เพิ่งมีโอกาสไปพิพิธภัณฑ์สยาม เป็นพิพิธภัณฑ์แห่งใหม่ที่เพิ่งเปิดไม่นาน ตั้งอยู่ที่กระทรวงพาณิชย์เดิม ละแวกโรงเรียนราชินี ปากคลองตลาด สิ่งแรกเลยพิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะไม่เหมือนภาพที่อยู่ในหัวเรา เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดวางนำเสนองานแบบทันสมัย เนื้อหาโดยรวมพูดถึงประวัติแห่งสุวรรณภูมิเป็นศูนย์กลาง และมีชนชาติ อารยธรรมต่างๆเข้ามาเกี่ยวข้อง เป็นเนื้อหาประวัติศาสตร์ที่มีข้อแตกต่างในตำราเรียนชั้นประถมมัธยมในรุ่นผม ไม่แน่ใจว่าหนังสือเรียนในช่วงหลังหรือปัจจุบันว่าไว้อย่างไร แต่ก็เป็นประวัติศาสตร์ที่อิงจากการศึกษาเพิ่มเติม เป็นเนื้อหาที่เคยรับฟังรับทราบมาแต่ครั้งก่อนที่ใครหลายคนอาจเคยได้ยินหนังสือที่ว่า คนไทยไม่ได้มาจากไหน อืมม์ ไม่แน่ใจว่าจำชื่อผิดหรือเปล่า และมีการพูดถึงผี พราหมณ์ พุทธ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการที่เราเป็นเราในปัจจุบัน
โดยรวมผมใช้เวลาประมาณสองชั่วโมงในการดูแบบไม่ละเอียดมากนัก ถ้าหากดูกันอย่างเป็นจริงเป็นจังคงต้องใช้เวลาทั้งวัน สิ่งที่เด่นมากๆคือการนำเทคโนโลยี่มาใช้ในการนำเสนอ และมีการโต้ตอบ ซึ่งเป็นสิ่งละอันพันละน้อยที่มีอยู่เกือบทุกจุดในการแสดง น่าจะเป็นการส่งเสริมการเรียนรู้โดยให้คนดูค้นหาด้วย ดีมากๆ
มีหลายอย่างที่ประทับใจ ซึ่งคงปล่อยให้คนไปดูค้นหากันต่อเอง แต่ที่จะนำมาพูดคือในห้องสมัยอยุธยา ส่วนของวรรณกรรม มีโคลงกลอนหรือบทประพันธ์ทำนองนี้อยู่ฉบับหนึ่ง ที่ประทับใจคือบทแปลเป็นคำกลอนภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นการแปลผบบได้ความหมายและมีความสวยงามในการใช้คำที่มีการสัมผัสคล้ายกับโคลงกลอนแบบไทยๆ หรือการเขียนบทโคลงกลอนแบบฝรั่งเป็นไปในลักษณะใกล้เคียงกับไทยก็ไม่รู้ บทโคลงกลอนฉบับยี้เป็นเรื่องที่ถ้าเอ่ยชื่อไปก็ต้องร้องอ๋อ แต่ผมดันจำไม่ได้ว่าชื่อว่าอะไร เนื้อหาที่พอจำได้เป็นเลาๆก็คือ อยุธยาช่างสวยงามดั่งเมืองสวรรค์ อะไรทำนองนี้ คำจริงๆที่ใช้ก็ดันจำไม่ได้จำได้แต่เนื้อความหมาย อืมม์ สงสัยต้องไปหาพวกแป๊ะก๊วยมากินบำรุงความจำ อย่างไรก็ตามตั้งใจจะกลับไปอีกหนเพื่อเก็บรายละเอียดอีกครั้ง
หลังจากเดินพิพิธภัณฑ์สยามแล้วก็ลัดเลาะออกด้านหลังเดินผ่านโรงเรียนราชินี เข้าสู่ปากคลองตลาด ถ้าหากไม่นับร้านค้าสะดวกซื้อที่โผล่ขึ้นมาเป็นจุดๆแล้ว ปากคลองตลาดวันนี้ไม่ได้ต่างไปจากหลายสิบปีก่อน ผ่านปากคลองตลาดเลี้ยวซ้ายเดินตามความยาวของตึกเหลืองยาว เพื่อเข้าสู่โรงเรียนสวนกุหลาบ เป็นงานสังสรรค์บรรดาชาวสวนโดมกัน ได้เจอะเจอรุ่นพี่รุ่นน้องมากมาย และมีอาจารย์มาร่วมงานอีกสามสี่ท่าน เป็นความสุขอย่างหนึ่งที่ได้เจอะเจอและพูดคุยกัน ในปีหนึ่งจะได้เจอกับหลายคนก็ในงานนี้เท่านั้น
และในงานนั้นนี่เองที่สลายความจำต่างๆในการเดินพิพิธภัณฑ์สยามออกไป เลยเหลือแค่สิ่งเล็กๆน้อยๆมาเล่าสู่กันฟังเพียงเพื่อบอกว่า แนะนำให้ไปดูพิพิธภัณฑ์สยามครับ
39 Responses to "พิพิธภัณฑ์สยาม"
งั้นก็บทนี้?
อยุธยายศยิ่งฟ้า ลงดิน แลฤา
อำนาจบุญเพรงพระ ก่อเกื้อ
เจดียลอออินทร์ ปราสาท
ในทาบทองแล้วเนื้อ นอกโสม
ยังไม่เคยไปค่ะ แต่สงสัยต้องหาโอกาสไปแล้วล่ะ อยากไปดูโคลงภาษาอังกฤษ
ต้องไป ต้องไป
อยากเห็นเนื้อหาที่แปลภาษาอังกฤษออกมา ไม่ทราบใครแปล
อ.มนตรี อุมะวิชนี ผู้ล่วงลับไปแล้วหรือเปล่า
เคยอ่านงานแปลกวีของท่าน เพราะมาก ให้ความหมายตรงกับต้นฉบับเลยทีเดียว
โคลงที่คุณ POK ยกมา เห็นอยุธยาเหมือนสรวงสวรรค์เลย
ทั้งจากนิราศนรินทร์ บทแรก และกำสรวลศรีปราชญ์บทถัดมา
อ้อ แถวปากคลองตลาด ชอบเดินสมัยก่อนๆ
เพราะต้องมางานวิทยาศาสตร์สัมพันธ์ สังคมนิทรรศที่สวนฯบ่อย
ขึ้นรถเมล์จากต้นสาย สาย 2 ปากคลองตลาดไปลงบางนาเลย
ประวัติของ อาจารย์ มนตรี อุมะวิชนี ตาม Link นี้เลย
http://www.bangkokbiznews.com/jud/wan/20060204/news.php?news=column_19977059.html
อีกท่านหนึ่งที่แปลโคลงไทยเป็นภาษาอังกฤษได้สละสลวยก็คือ
ม.ร.ว. เสนีย์ ปราโมช อดีตนายกรัฐมนตรี
ถึงกับพิมพ์ผลงานในหนังสือ Interpretative Translations of Thai Poets
ลองดูความไพเราะเพราะพริ้งบางบท
ฝูงชนกำเนิดคล้าย คลึงกัน
ใหญ่ย่อมเพศผิวพรรณ แผกบ้าง
ความรู้อาจเรียนทัน กันหมด
เว้นแต่ชั่วดีกระด้าง ห่อนแก้ฤาไหว
Born men are we all and one,
Brown, black by the sun cultured.
Knowledge can be won alike.
Only the heart differs from man to man.
อยากจะซาบซึ้งมากกว่านี้ก็ไปที่ Link นี้เลย
http://www.suphawut.com/translations/masterpieces/seni/index.htm
เรื่องรถเมล์เปลี่ยนเบอร์ก็งงๆเหมือนกัน
อาศัยลองมั่วๆขึ้นแล้วถามกระเป๋าว่าไปหรือเปล่า
ถ้าไม่ไปก็ลง ต่อคันใหม่
ตอนนี้ขึ้นรถเมล์ต้องมีเศษตังค์เยอะๆ ไม่รู้ราคาจะปรับขึ้นอีกเท่าไหร่
ขอโทษที อ่านไม่ละเอียด ถ้า Khun T บอกว่าอ่านเจอในห้องอยุธยา คาดว่าไม่น่าใช่โคลงที่ยกมาบทแรก เพราะโคลงในนิราศนรินทร์บทนี้สดุดีกรุงรัตนโกสินทร์
หากไม่ใช่โคลงบทหลังที่ยกมาจากกำสรวลศรีปราชญ์แล้ว อิฉันยังนึกไม่ออก…คาใจมาก
Khun T ได้โปรดช่วยบอกพิกัดละเอียดอีกนิดค่ะ เดี๋ยวจะหาเวลาไปดู
พิมพ์แล้วเพิ่งเห็นข้อความของคุณกูรูขอบสนาม ขออนุญาตใช้เนื้อที่คุยกับคุณกูรูฯนิดนึงนะคะ
ตอนแรกที่พูดถึงโคลงภาษาอังกฤษ อิฉันนึกถึงโคลงที่คุณกูรูฯ ยกมาเหมือนกัน แต่จำไม่แม่นว่าผู้แต่งเป็นใคร จำได้เลาๆว่าเป็นคุณชายในตระกูลปราโมช
ได้อ่านลิงก์แล้วทึ่งจริงๆ การแต่งโคลงเป็นภาษาอังกฤษนี่เป็นความใฝ่ฝันของอิฉันเลย แต่แค่โคลงภาษาไทยก็เกินความสามารถแล้ว
พูดถึงเรื่องร้อยกรอง…
คุณกูรูฯ เคยได้ยิน “สยามวิเชียรฉันท์” บ้างไหมคะ อิฉันเคยอ่านเมื่อนานมาแล้วว่านำฉันทลักษณ์มาจากร้อยกรองภาษาอังกฤษ อยากอ่านบทที่เป็นภาษาอังกฤษ แต่ก็จนปัญญา ไม่รู้ว่าจะค้นอย่างไร
ต้องขออภัย Khun T ที่ไม่ได้คุยเรื่องเงินๆทองๆตามเจตนารมณ์นะคะ
ขอบคุณคุณ T ที่ให้เนื้อที่พูดคุยกันนอกเรื่องสักหน่อย
คุณ Pok ได้ลองค้นดูข้อมูลพบเพียงว่า สยามวิเชียรฉีนท์ เป็นฉันท์ที่แต่งขึ้นมาใหม่
โดย กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ ( น.ม.ส) โดยปรากฏในเพลง อโห กุมาร
เพลงประจำสถาบันของโรงเรียนเทพศิรินทร์
ทำนองเพลงขึ้นๆลงๆ ฟังครั้งแรกรู้เลยว่าต้องมาจากเพลงฝรั่งแน่ๆ
แต่หาข้อมูลมากกว่านี้ไม่มี
คุณ Pok ลองดูที่ Link นี้เพื่อความกระจ่าง
http://www.9digits.com/index.php?option=com_content&task=view&id=23&Itemid=1
เปิดๆค้นไป จำได้ว่ามีดอกสร้อยสุภาษิตที่แปลมาจากบทดั้งเดิมภาษาอังกฤษ
คือ “รำพึงในป่าช้า” จากต้นฉบับ Elegy Writen in a Country Churchyard ของทอมมัส เกรย์ (Thormas Gray)
กวีอังกฤษผู้มีชีวิตอยู่ในช่วงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 18
เป็นบทกลอนที่ฟังง่าย อ่านง่าย ได้คติและปลงตก
พระยาอุปกิตศิลปสารสามารถถ่ายทอดหัวใจของเนื้อหา
และใส่กลิ่นอายชาวบ้านไทยๆตาสี ตาสาได้อย่างแนบเนียน
http://www.st.ac.th/bhatips/tip49/thai_elegy_m249.html
ตอนสมัยเรียนก็ไม่ได้ซาบซึ้งเท่าไหร่ ท่องเอาสอบผ่านเท่านั้น
แต่มาถึงวัยตอนนี้ สงสัยดวงตาจะเริ่มเห็นสัจธรรมของชีวิตมากขึ้น หึหึ
ชอบเรื่องโคลงกลอนนะ สมัยเรียนนี่จะชอบแต่ง กาพย์ กลอน โคลง
เรื่องกลอนที่จำได้ จะออกแนวของกิน ประมาณ มัสมั่นแกงแก้วตา ซะมากกว่า
^^”
ส่วนมิวเซียมสยามนี้ ได้อ่านเกี่ยวกับพิพิธภัณฑ์นี้มาจากอีกบล็อกหนึ่ง
ก็ว่าน่าสนใจดีค่ะ คาดว่าคงจะลองไปสักวัน ได้รู้เบื้องหลัง – ที่มาของพิพิธภัณฑ์นี้ด้วย หวังว่าในอนาคตจะไม่โดนเหมือน tcdc นะ
ขอบคุณคุณกูรูฯ มากค่ะ อุตส่าห์ค้นมาให้
อ่านดอกสร้อย “รำพึงในป่าช้า” แล้วชวนให้ปลงอนิจจัง โดยเฉพาะบทท้ายๆที่เป็นคำจารึก อ่านแล้วนึกถึงฉันท์บทนี้
“พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง
โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี
นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์
สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา”
ปล. Khun T คะ หัวข้อนี้คึกคักดีจังนะคะ
อยากไปมากแต่ไม่รู้เส้นทาง
ว้าว กลับมาอ่านอีกที แนวร่วมเพียบเลย
สงสัยต้องนัดไปเที่ยวกันดีมั้ย
เสร็จแล้วก็เดินเลียบๆแถวๆนั้น
จะไปถึงท่าช้าง ท่าพระ ท่าพระจันทร์ หรือท่าพระอาทิตย์
หาอะไรกินแถวๆถนนประวัติศ่าสตร์เลยก็ไม่เลว
ขอสมัครเป็นลูกทัวร์คนที่สองค่ะ
คุณ T นัดมาเลย ขอเป็นวันอาทิตย์สัก 10 เช้าเป็นต้นไป
(จะ 11 , 12 หรือบ่ายโมงก็ได้ แต่ตอนเช้าอากาศน่าจะดีกว่า)
นัดจุดเจอกัน แถวข้างหน้าพิพิธภัณฑ์ที่เห็นชัดๆ ใครสะดวกมาร่วมก็ยินดี
วางโปรแกรมหลวมๆ เดินชมพิพิธภัณฑ์เสร็จ แล้วก็เดินเท้าไปรอบๆบริเวณนั้น
ริมถนนเลียบแม่น้าเจ้าพระยา หิว เหนื่อย ก็พักดื่ม พักกินสบายๆ
ตรงไหนตรงนั้น แดดร่มลมตกก็แยกย้ายกลับ
ดีมั้ยเอ่ย
เอ..เผลอๆเดินแค่พิพิธภัณฑ์อย่างเดียวก็ขาลาก ล้มแพ่ะอยู่ตรงนั้นล่ะ
อาทิตย์ที่ 22 มิย. ก้อดีนะ
วันเสาร์ทำงานอ่ะ
วันนี้ไปดูนิทรรศการ Galileo Chini ที่ Event Hall Central ชิดลมมา
จัดได้ดีทีเดียว มีเพลง Opera ฟังเพราะๆตลอดนิทรรศการด้วย
แวะเข้ามาที่นี่แบบมึนๆ
เลยต้องอ่านย่อหน้ารองสุดท้ายของคุณ T สองรอบ เพราะงงๆ ว่าคุณ T นี่ศิษย์เก่าราชินีหรือนี่!! อิอิ
ยิ่งลงมาถึงคอมเม้นต์ยิ่งมึน…เพลินกับโคลงกลอนเกินไปหน่อย
ไม่ใช่ละ!! ไม่รู้เรื่องเลยต่างหาก
พิพิธภัณฑ์น่าสนใจค่ะ เคยดูรายการพิพิธเพลิน(มั้ง ถ้าจำไม่ผิด) เคยพาเที่ยวและแนะนำที่นี่เหมือนกัน แต่ก็ยังหาเวลาไปชมไม่ได้เลย ด้วยสารพัดเหตุผลที่จะชักมาอ้างได้
ชอบเที่ยวพิพิธภัณฑ์ค่ะ แต่ไร้ซึ่งผู้ร่วมทางและร่วมอุดมการณ์ เพราะพอพูดถึงพิพิธภัณฑ์ แค่พูดชื่อจบ คนฟังก็หลับไปซะแล้ว มาแอบเห็นนัดแนะกันไป น่าอิจฉาเชียวค่ะ อยากไปด้วยจัง
อยากไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์นี้บ้าง….
ห่างหายจากการไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์นานแระ…
ขอบคุณมากๆ สำหรับข้อมูลครับ
Somehow i missed the point. Probably lost in translation 🙂 Anyway … nice blog to visit.
cheers, Buttress!!
จะไปพรุ่งนี้อยากให้เพื่อนๆไปกันเยอะเลย
วันเสาร์นี้อาจารย์จะพาไปให้หาข้อมูลไปทำสกู๊ปยังหาไม่ได้เลยงะครับ
ใครรู้ข้อมูลของพิพิธภัณฑ์สยามโพสมาบอกกันมั่งนะครับ
จะไปอยู่นะเนี่ย
อยากไปมาก ขอผู้รู้บอกเส้นทางด้วย
Howdy! This post could not be written any better! Looking through
this article reminds me of my previous roommate!
He continually kept talking about this. I’ll forward this information
to him. Pretty sure he will have a good read. I
appreciate you for sharing!
1 | Pok
พฤษภาคม 25, 2008 ที่ 5:05 pm
นึกถึงโคลงในนิราศนรินทร์บทนี้
อยุธยายศล่มแล้ว ลอยสวรรค์ ลงฤๅ
สิงหาสน์ปรางค์รัตน์บรร- เจิดหล้า
บุญเพรงพระหากสรรค์ ศาสน์รุ่ง เรืองแฮ
บังอบายเบิกฟ้า ฝึกฟื้นใจเมือง ฯ